ความสุขเล็กๆ ในใจ

ตกตอนเย็นทำโยคะ ตามในโปรแกรมค่ะ ทานน้ำปานะ เมียงๆ มองๆ ดู เป็นน้ำเต้าหู้ค่ะ แต่แอบเหลือบไปเห็นร้านขายโรตี ฟัดไปหนึ่งจาน ก็ยังมิได้รับศีลนี่นา
เสร็จแล้วอาบน้ำ สวดมนต์ รับศีลแปด นั่งสมาธิ (ฟังเหมือนดูดี แต่ทำได้เค่ไม่ถึง 5 นาที) นั่งๆ ไป หงายเงิบบบบ หลับกันไป อ่า...หมดไปแล้วคืนวันศุกร์



วันเสาร์ตื่นตีสี่ ทำวัดเช้า ทรมาณจังกำลังหลับสบายๆ โดนปลุกมาสวดมนต์ พอสว่างไปทำโยคะที่ลานโพธิ์ค่ะ อากาศดีจัง
ทานอาหารเช้า เป็นข้ามต้มธัญพืช มีข้าวแดง ลูกเดือย แครอท เผือก....ไหวไม๊เนี่ยะ
สวดมนต์ให้พร ชิมไปหนึ่งคำพร้อมพิจารณาอาหารในใจ อืมมมม เผือกหนอ แครอทหนอ ลูกเดือยหนอ อืมมม
ชิมไปอีกสองคำ อืมมมม สามคำ อืมมมมมมมมมม อ่าว เผลออีกทีหมดชาม ไปตักเพิ่มอีกดีก่า
ต่อไปก็ นั่งฟังรายการวิทยุของสาวิกาสิกขาลัย เป็นรายการธรรมะค่ะ อาหารเที่ยงเป็นข้าว แกงมัสหมั่นมังสาวิรัต กะผัดผัก

เติมข้าวอีกแล้ว แหม ไม่อยากเล๊ยยยยยยยยยย ตอนบ่าย นอนภาวนาค่ะ เป็นยังอ่ะหรอคะ
ก็นอนแล้วก็พิจารณาลมหายใจ เข้า.....ออก.......เข้า.....ออก......เข้า....ออก.......คร่อกกกกกกกฟรี้
หลับกันไปเป็นแถบ ก็แม่ชีท่านใช้ คริสตัลบอล ทำให้เกิดเสียงเหมือนระฆัง ฟังแล้วสงบ ผ่อนคลายยยย
หลับไปซะงั้นแหล่ะ แม่ชีท่านบอกว่า เพราะพวกโอ๋ยังไม่ชินกับการนอนดึก ตื่นเช้า การนอนภาวนา ไม่ได้เป็นการขี้เกียจ
แต่เป็นการทำให้ใจสงบ และได้พักผ่อนชั่วขณะหนึ่งค่ะ
ต่อมาก็ หัดเดินจงกรม พิจารณาเท้าแต่ละก้าวของเรา และพื้นที่เราเหยียบลงไปทีละก้าวๆ โดยไม่ใส่รองเท้า
ดินหนอ หินหนอ กรวดหนอ ทรายหนอ ระวังมดหนอ ระวังไส้เดือนหนอ พยาธิหนอ (มองเห็นไหมนั่น)
ตอนสี่โมงกว่าๆ ทานน้ำปานะ อาบน้ำ มานั่งสวดมนต์เย็น ต่อด้วยทำสมาธิ เดินจงกรมตามอัธยาศัยค่ะ
คืนนี้เริ่มมีสมาธิมากขึ้น นั่งได้นานขึ้น (8 นาที ) ถ้านั่งนาน ก็ไปเดินจงกรม เดินจนเมื่อย ก็มานั่งสมาธิใหม่
จน 5 ทุ่ม แทบขาดใจ คลานไปนอน เพราะมะเช้าตื่นแต่ตีสี่




วันอาทิตย์ สะดุ้งตื่นแต่ตีสามครึ่งแฮะ (มันทำได้ซะงั้น) ล้างหน้าล้างตารีบไปสวดมนต์เช้า ต่อด้วยทำโยคะสมาธิ
เสร็จแล้วอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้ามานั่งฟังรายการวิทยุ สายๆ มีคุณพ่อคุณแม่ และว่าที่พ่อแม่ (กะลังท้อง)
มาร่วมทำกิจกรรม...จิตรประภัสสร ตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์... โครงการนี้น่าสนใจมากมาย คู่ไหนไม่ท้องก็มาร่วมกิจกรรมค่ะ
เราน่าจะไปมิตติ้ง ทำกิจกรรมนี้กันบ้างนะ ช่วยส่งเสริมสายใยรักในครอบครัวได้ดีมากๆ ค่ะ
แม่ชีท่านบอกว่า มีหลายคู่ที่มาทำกิจกรรม กลับไปก็ท้อง น่าสนนะคะ คราวหน้าโอ๋ว่าจะชวนพี่แมคไปอ่ะค่ะ
http://www.sdsweb.org/th/index.php?topgroupid=%20%20%20%20%201%20%20%20%20&groupid=%20%20%20%20%206

อาหารเที่ยงวันนี้เป็นเหมือนก๋วยจั๊บ แต่เป็นเส้นหมี่ค่ะ เติมไปสองครั้ง ตามคอนเซ็ปต์ ตอนบ่ายนอนภาวนากับคริสตัลบอล
และเดินจงกรมเช่นเดิม ต่อมานั่งตอบคำถามธรรมะ กับแม่ชีท่าน สี่โมงเย็นแม่โอ๋มารับกลับไปพอดี แต่ใครจะอยู่ต่อจนสวดมนต์เย็นก็ได้นะคะ
มีหลายคนอยู่ 5 วันจนถึงวันแม่เลย แต่โอ๋ไม่สามารถแล้วค่ะ แบบว่าคิดถึงพ่อแม่มากๆ มีหลายกิจกรรมที่ทำให้เราคิดถึงพระคุณพ่อแม่จิงๆ


บทสรุปที่ได้จากการถือศีลครั้งนี้
รักพ่อแม่มากขึ้น รักตัวเองมากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น อาจจะยังฟุ้งซ่านไปบ้างแต่สามารถ ดึงมันกลับมาได้เป็นระยะๆ ค่ะ
มีผู้อบรมถามแม่ชีท่านว่า คุณแม่เสียไปตั้งแต่ยังเด็ก รู้สึกว่ายังไม่ได้ตอบแทนพระคุณเต็มที่ อยากทำอาไรเพื่อท่าน จะทำอย่างไรดี
แม่ชีท่านตอบว่า ในตังเราทุกคน มีพ่อแม่อยู่ในตัว เพราะเราเกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของท่าน ท่านพยายามอุ้มท้อง ฟูมฟักเรามาอย่างดี
การไม่ทำร้ายตัวเอง ดูแลตัวเองอย่างดี เป็นคนดีของสังคม ก็เป็นการตอบแทนพรระคุณท่าน ที่ตั้งใจทำให้เราเกิดมาแล้ว
เมื่อแม่ไม่อยู่ ก็ยังมี พ่อ หรือปู่ย่าตายาย ที่มีพระคุณเช่นกัน เราสามารถตอบแทนท่านได้ทางอ้อม
ตรงนี้ ฟังแล้วคิดถึงแม่มากๆ ค่ะ ซึ้งอ่ะ เพราะโอ๋เคยเห็นตัวอย่างเพื่อนบางคน ที่เสียแม่ไป แต่ทำตัวเหลวแหลก แล้วบอกว่า
ไม่มีใครเข้าใจเขาเท่าแม่อีกแล้ว แต่ถ้าแม่รู้ว่าเค้าทำตัวแบบนี้ แม่เขาคงเสียใจมากๆ อ่ะค่ะ

ส่วนเรื่องจิตที่เราชอบคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย ท่านสอนว่า จิตคนเราก็เหมือนเด็กเล็กๆ ชอบวิ่งซุกซนเที่ยวเล่นไปเรื่อย
การปล่อยให้จิตใจเราคิดฟุ้งซ่านไปบ้างเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่ยังตัดกิเลศไม่หมด
แต่หากเราสามารถ รู้ทั่ว ตัวพร้อม ว่าจิตเราคิดอาไรอยู่ โกรธหนอ ดีใจหนอ เสียใจหนอ จะเป็นเรื่องที่ดี
ร่างกายเราเจ็บให้รู้ว่า เจ็บหนอ ให้รู้สึกตัวทุกขณะ แล้วค่อยๆ เอาจิตไปไว้กับลมหายใจ ค่อยๆ ดึงความคิดฟุ้งซ่านกลับมา
ถ้าจิตหลุดไปอีก ก็ค่อยดึงกลับมาอีก ถ้าฝึกได้อย่างนี้ประจำ ก็เปรียบเหมือน หยดน้ำ ที่เราทำได้ทีละหยดๆๆๆ
พอรวมได้หลายหยด ก็จะกลายไปสายน้ำเล็กๆ แต่สามารถกลายเป็นสายน้ำใหญ่ได้ หากเราเพียรฝึกฝนเรื่อยๆ ค่ะ
หยดน้ำทีละหยดของสมาธิ ก็จะกลายเป็นสายน้ำได้

อีกอย่างที่พบได้คือ อ้วนขึ้นค่ะ ก็อาหารมังสวิรัติที่นี่ อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อยากให้ลองไปทานกันดูค่ะ อ้อ เนื่องจากที่นี่มีต้นไม้เยอะแยะ มีคลอง ก็เลยยุงเยอะในช่วงเช้ากะค่ำนะคะ
แต่ที่วัดมีโลชั่นกันยุงขายค่ะ ไม่ต้องห่วง เนื่องจากไม่มีโบสถ์ มีแต่ศาลาเปิดโล่งไว้สวดมนต์ โอ๋ก็โดนยุงกัดไปบ้างตามอัธยาศัย
ใครจะมา แต่กายมิดชิดหน่อยก็ดีค่ะ กางเกงขายาวดีที่สุด

สุดท้ายขอฝากเพลง ดอกไม้บาน ไปฟังกันค่ะ เป็นเพลงเพื่อการภาวนาจิตใจ ให้จิตใจอยู่กับตัว ไม่คิดฟุ้งซ่าน
ให้อยู่กับลมหายใจของเรา ทุกขณะจิตค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=ZkKz-jg4--c


ธรรมสวัสดีค่ะ [/size][/color]

อย่างน้อยก็ได้เริ่มต้นทำจริงๆ จังๆ แล้วนะ โอ๋ . . สุดยอดไปเลยจ้า

พี่สาวพี่ไปอยู่มา 7 วัน ได้รัยมาเยอะเลย . . (ไม่ใช่น้ำหนักเหมือนเองนะยะ 555+)

พอดีว่า... เราชอบฟังหลวงพ่อปราโมทย์ด้วย

แล้วการปฏิบัติดูเหมือนจะมาแนวทางเดียวกัน เลยชอบเปนพิเศษค่ะ

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ น้องโอ๋. .