livingroom
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
livingroom
livingroom
::
ห้องนั่งเล่น
::
ศาลาริมน้ำ..
Butterfly story เรื่องของผีเสื้อเขา... เราก็เกี่ยว
+2
Admin
Down2Earth
6 posters
ผู้ตั้ง
ข้อความ
Down2Earth
Silver
จำนวนข้อความ
:
503
Join date
:
16/06/2009
:
52
เรื่อง: Butterfly story เรื่องของผีเสื้อเขา... เราก็เกี่ยว
Fri Oct 16, 2009 8:49 am
[b]
ในระหว่างทานข้าวกลางวัน วนิดาซึ่งเป็นซีอีโอ
ถามกิตติผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งที่รายงานตรงต่อเธอว่า
“ กิตติ พี่สังเกตว่าคุณไม่เคยปิดมือถือเลย แม้กระทั่งเวลาประชุม
แล้วพี่ก็เห็นคุณขอตัวออกไปจากที่ประชุมกลางคันเพื่อรับโทรศัพท์
พี่อยากรู้ว่าเป็นโทรศัพท์ของใครหรือ ทำไมมันสำคัญขนาดรอจนจบประชุมไม่ได้ พี่เห็นเป็นประจำเลยนะ ”
กิตติมีท่าทีอึดอัด เขาตอบว่า
“ ไม่มีอะไรหรอกครับ เรื่องส่วนตัวนะครับ ผมขอโทษ ”
วนิดายิ้มแบบผู้ใหญ่ใจดี เธอเงียบไปสักครู่จึงพูดต่อ
“ กิตติ เราสองคนทำงานด้วยกันมาพอสมควร
คิดว่าพี่เป็นพี่สาวของคุณก็ละกัน เพราะพี่อายุมากกว่าคุณสองสามปี
มีอะไรก็เล่าสู่กันฟังซิคะ เผื่อว่าพี่อาจจะแนะนำอะไรให้ได้บ้าง ”
วนิดาเลือกใช้แนวทางพี่น้อง แทนที่เธอจะตำหนิเขาโดยตรง
ในเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่ประชุมแบบเจ้านายกับลูกน้อง
วิธีนี้ได้ผล! กิตติสารภาพออกมาแบบกระอักกระอ่วน
“ ก็...คือว่า...พี่อย่าโกรธผมนะครับ มันเป็นโทรศัพท์มาจากลูกสาวผมเอง
เธอเพิ่งไปเรียนไฮสคูลที่ออสเตรเลียเมื่อไม่กี่เดือน
โรงเรียนที่ลูกสาวผมเรียนนี้ค่อนข้างจะเข้มงวด แถมมีการบ้านจมเลย
ตอนลูกสาวผมเรียนที่นี่ ผมช่วยติวและทำการบ้านร่วมกับเธอบ่อยๆ
ลูกคนเดียวเธอคือดวงใจของผมเลยครับ ผมบอกเธอว่าไปอยู่นั่น
ติดขัดเรื่องการบ้านละก็โทรมาหาผมได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะเป็นเวลาใด
ผมจะคอยช่วยเหลือเธอผมไม่ต้องการเห็นเธอล้มเหลว
ตอนค่ำเมื่อกลับบ้านผมก็แทบจะไม่ได้พักผ่อน
แต่จะไปช่วยเธอทำการบ้านแล้วก็แฟ็กซ์ส่งไปเรื่องคณิตศาสตร์บ้าง
ภาษาอังกฤษบ้าง ผมอยากให้เธอประสบความสำเร็จ
ผมต้องขอโทษที่บริหารเวลาไม่ค่อยได้เรื่อง ”
กิตติจบเรื่องลงด้วยท่าทีละอายใจ วนิดาแสดงความเห็นใจ
“ เรื่องของคุณมันฟังแล้วคุ้นๆมากเลย พี่พอจะจินตนาการออก
ถึงความลำบากใจของเธอ พี่เองก็มีลูกสาวเรียนปริญญาโทอยู่ที่อเมริกา
พี่เคยทำแบบคุณเหมือนกัน เพราะลูกสาวพี่จบตรี แล้วไปต่อโทเลย
จึงไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน ดังนั้นพอทำกรณีศึกษาก็มักจะ
ไม่ทันเพื่อนเขา หรือไม่เข้าใจ แถมยังไม่กล้าถามอาจารย์อีก
พี่เลยต้องช่วยทำเคส แล้วก็อีเมล์ไปให้เธอ แต่ว่าตอนนี้พี่หยุดช่วยเธอแบบนั้นแล้วล่ะค่ะ ”
กิตติถามด้วยความประหลาดใจ
“ ทำไมล่ะครับ พี่ไม่รักเธอแล้วหรือ
หรือว่าพี่เห็นว่างานมีความสำคัญกว่าครอบครัวครับ ”
วนิดาตอบพร้อมกับยิ้มอย่างอารมณ์ดีว่า
“ พี่ยังรักลูก และเห็นคุณค่าของครอบครัวและงานเหมือนเดิม
พี่โชคดีที่มีเพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่ง เขาสังเกตเห็นวิธีที่พี่ช่วยลูกสาว
แล้ววันหนึ่งเขาก็ให้หนังสือเล่มหนึ่งชื่อ
The Power of Failure
โดย
Charles C. Manz
และมีการแปลเป็นไทยในชื่อ วิกฤติคือโอกาส โดยพสุมดี กุลมา เรียบเรียงโดย นราทิป นัยนา
เพื่อนอเมริกันเขาคั่นเรื่องๆหนึ่งให้พี่อ่านโดยเฉพาะเลย พี่จะเล่าให้เธอฟัง ”
.........
มีชายคนหนึ่งนั่งมองผีเสื้อที่กำลังดิ้นรนจะออกจากรังไหม
เจ้าผีเสื้อดิ้นรนไปซักพัก จนกระทั่งใยรังไหมเริ่มขาดเป็นรูเล็กๆ
ชายคนนั้นมองด้วยความสนใจ เจ้าผีเสื้อดูเหมือนจะหยุดไป ที่จริงผีเสื้อมันพักเพื่อที่จะดิ้นรนต่อไป
แต่ว่าชายคนนั้นคิดไปเองว่าผีเสื้อคงติดใยรังไหม ไม่สามารถจะออกมาได้ด้วยตนเอง
ด้วยความหวังดี เขาจึงนำกรรไกรขนาดเล็กมาตัดใยรังไหมนั้น
ทำให้รูมันขยายใหญ่ขึ้น เจ้าผีเสื้อเห็นรูขยายใหญ่ขึ้นมันก็คลานต้วมเตี้ยมออกมา
แต่เขาสังเกตว่าตัวมันมีขนาดเล็กกว่าปกติ ปีกเหี่ยวย่น แถมลำตัวของเจ้าผีเสื้อก็มีลักษณะบวมผิดปกติ
กลายเป็นว่าในขณะที่ผีเสื้อต้องดิ้นรนออกแรงตะเกียกตะกาย
เพื่อพยายามจะดันตัวมันออกจากรังไหมนั้น
เป็นกระบวนการธรรมชาติที่จะกระตุ้นให้ของเหลวชนิดหนึ่ง
ที่อยู่ในลำตัวผีเสื้อเคลื่อนที่มาสู่ปีก เพื่อทำให้ปีกแข็งแรงเพียงพอจะบินได้
ด้วยความปรารถนาดีของชายคนนั้น
ผีเสื้อตัวนี้ปีกจึงเหี่ยวย่นไม่แข็งแรงเพียงพอจะบินได้
แถมยังมีรูปร่างพิกลพิการ เพราะของเหลวที่ควรจะอยู่ที่ปีก ดันไปติดคั่งค้างอยู่ที่ลำตัว
เจ้าผีเสื้อตัวนี้ออกจากใยมาได้ด้วยความสบาย
แต่ต้องพิกลพิการ และบินไม่ได้ไปชั่วชีวิตของมัน
.....
อุปสรรคและความล้มเหลวในชีวิตของคน ก็คล้ายๆกันกับสิ่งที่เจ้าผีเสื้อเผชิญ
ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ ความก้าวหน้าในชีวิต การพัฒนาทักษะ ความกล้าหาญ
ความมุ่งมั่น ล้วนแล้วแต่น่าสงสารและน่าเห็นใจ
แต่จะได้คุณค่ามาก็ด้วยการล้มเหลวอย่างถูกวิธี
เราจะคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต
โดยไม่มีความล้มเหลวนั้นเป็นไปไม่ได้
เมื่อเราเผชิญอุปสรรค แล้วเราหลีกเลี่ยงที่จะแก้ไขหรือต่อสู้กับมัน
เท่ากับว่าเรากำลังเสียโอกาสสำคัญในการเรียนรู้บทเรียนที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในชีวิตของคน
กิตติฟังด้วยความสนใจ
“ โอ้โฮ เรื่องนี้จุดประกายน่าดูครับ
แต่ผมกลัวว่าลูกผมจะเกลียดผมนะซีครับ ”
วนิดาเสริมต่อ
“ มีคำพูดที่ว่า
'No pain No gain' "ไม่เจ็บ ไม่ได้เรียนรู้"
ที่จริงพวกเรานะผิดเองที่ป้อนลูกๆ เรามากไป
สำหรับกรณีของพี่
พี่อธิบายให้ลูกเขาเข้าใจด้วยการเล่าเรื่องนี้แหละ
หลังจากนั้น พี่ก็ขอโทษสำหรับการให้ความช่วยเหลือลูกแบบผิดๆในอดีต
ลูกๆ ของเราเขาฉลาดพอจะเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้นะ ...
กิตติ คุณลองมองไปรอบๆตัวเราสิ
เรามีพนักงานที่มีความรู้ มาจากครอบครัวที่มีฐานะ
หลายคนที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ
พวกเขาไม่อดทนต่อปัญหาและอุปสรรค
คนที่ควรถูกตำหนิคือ พ่อแม่ของเขา
คุณอยากถูกคนอื่นเขาต่อว่าแบบนี้ในอนาคตไหมล่ะ
แถมลูกๆ ของเรายังอ่อนแอไม่สามารถจะฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคได้ ..
... คุณมีสิทธิ์เลือกนะ … ”
Like
Dislike
Down2Earth
Silver
จำนวนข้อความ
:
503
Join date
:
16/06/2009
:
52
เรื่อง: Re: Butterfly story เรื่องของผีเสื้อเขา... เราก็เกี่ยว
Fri Oct 16, 2009 8:50 am
'No pain No gain' "ไม่เจ็บ ไม่ได้เรียนรู้"
ชอบอ่ะ
Like
Dislike
Admin
Admin
จำนวนข้อความ
:
1531
Join date
:
12/06/2009
เรื่อง: Re: Butterfly story เรื่องของผีเสื้อเขา... เราก็เกี่ยว
Fri Oct 16, 2009 9:16 am
อ่านจนจบเรย . .
ดีแล้ว . . พี่จะได้เก็บไว้สอนลูกบ้าง . . .
ต้องให้มานหัดชงนมกินเองตั้งแต่ ขวบครึ่ง . .
สองขวบ . . ซักผ้า
สามขวบ... ทำกับข้าวได้แล้ว . .
สี่ขวบ... ไปเรียนหนังสือเอง . .
อืมมม ม ม .. ดีจัง . .
NO Pain ... NO Gain . .
จริงเสมอ . .
.....................
Like
Dislike
Down2Earth
Silver
จำนวนข้อความ
:
503
Join date
:
16/06/2009
:
52
เรื่อง: Re: Butterfly story เรื่องของผีเสื้อเขา... เราก็เกี่ยว
Fri Oct 16, 2009 9:21 am
Admin พิมพ์ว่า:
อ่านจนจบเรย . .
ดีแล้ว . . พี่จะได้เก็บไว้สอนลูกบ้าง . . .
ต้องให้มานหัดชงนมกินเองตั้งแต่ ขวบครึ่ง . .
สองขวบ . . ซักผ้า
สามขวบ... ทำกับข้าวได้แล้ว . .
สี่ขวบ... ไปเรียนหนังสือเอง . .
อืมมม ม ม .. ดีจัง . .
.....................
แต่ที่แน่ๆ
ต้องไปทำให้มีลูกก่อนง่ะ
Like
Dislike
Mashiangel
Silver
จำนวนข้อความ
:
408
Join date
:
16/06/2009
เรื่อง: Re: Butterfly story เรื่องของผีเสื้อเขา... เราก็เกี่ยว
Fri Oct 16, 2009 10:13 am
พี่หมี่
ขอบคุณค่ะ มีเรื่องดีๆ มาฝากอีกแล้ว
'No pain No gain' "ไม่เจ็บ ไม่ได้เรียนรู้"
ประโยคนี้เห็นด้วยเลยค่ะ ชอบเหมือนกัน
Like
Dislike
Bunnie
Silver
จำนวนข้อความ
:
325
Join date
:
30/07/2009
:
45
ที่อยู่
:
Nederland
เรื่อง: Re: Butterfly story เรื่องของผีเสื้อเขา... เราก็เกี่ยว
Sun Oct 18, 2009 12:24 am
ได้อ่านฟอร์เวิร์ดเมล์นี้เหมือนกันค่ะ ....
ดีจังเลย และก็คงจริงอีกนั่นแหละค่ะ
ขอบคุณพี่หมี่นะคะ ที่เอามาให้อ่านอีกรอบ
Like
Dislike
nueann
Silver
จำนวนข้อความ
:
376
Join date
:
19/08/2009
:
41
เรื่อง: Re: Butterfly story เรื่องของผีเสื้อเขา... เราก็เกี่ยว
Sun Oct 18, 2009 11:24 am
อ่านแล้ว นึงถึงตัวเองเลยค่ะ
ปล่อยบ้างก้อดีนะค่ะ
Like
Dislike
mama_2a
New
จำนวนข้อความ
:
33
Join date
:
20/08/2009
เรื่อง: Re: Butterfly story เรื่องของผีเสื้อเขา... เราก็เกี่ยว
Mon Oct 19, 2009 11:51 pm
บทความนี้ดีมากเลยหมี่ อ่านแล้วก็นึกถึงตัวเองเลย พ่อกะแม่ให้นั่งรถโรงเรียนตั้งแต่อนุบาลยันม.สาม นี่ถ้าชั้นมัธยมปลายเค้ามีรถโรงเรียนด้วยนะ พ่อกะแม่คงให้นั่งรถโรงเรียนไปยันจบม.6เลยอ่ะนะ พ่อกะแม่ห่วงเราเกินไป ปิดเทอร์มก็ไม่ให้ออกไปไหนเลย ให้ครูมาสอนพิเศษที่บ้านทุกวันอีกแน่ะ วัยรุ่นเซ็งสุดๆ ตอนนี้มีลูกเองแล้วเลยปล่อยๆลูกบ้าง
Like
Dislike
Down2Earth
Silver
จำนวนข้อความ
:
503
Join date
:
16/06/2009
:
52
เรื่อง: Re: Butterfly story เรื่องของผีเสื้อเขา... เราก็เกี่ยว
Tue Oct 20, 2009 8:09 am
เก๋
เป็นเพราะเก๋มีลูกชายป่ะ เลยปล่อยๆ บ้าง
หมี่มีลูกสาวนะ ห๊วงห่วง ไปโรงเรียนกลับมาบอกว่าโดนเพื่อนแกล้ง แม๊... อยากจะปลอมตัวเป็นลูก ไปจัดการเด็กคนนั้นเลย 55555
หมี่ก็คงปล่อยให้เรียนรู้อะไรเองเยอะๆ แต่คงต้องอยู่ในสายตาตลอดด้วย
เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนเน๊าะ น่ากลัวง่ะ
Like
Dislike
mama_2a
New
จำนวนข้อความ
:
33
Join date
:
20/08/2009
เรื่อง: Re: Butterfly story เรื่องของผีเสื้อเขา... เราก็เกี่ยว
Tue Oct 20, 2009 2:17 pm
สังคมสมัยนี้สิ่งยั่วยุเยอะเนอะ แย่จังเลย ขนาดรุ่นเก๋นะ ตอนเล็กๆแอบไปเล่นกับเพื่อนบ้าน แม่ตามไปตีซะ โบ๊กๆๆๆๆ ตีแบบไม่อธิบายกันเลยว่าเราผิดอะไร ไอ้เราเด็กก็คิดว่า...แค่ไปเล่นกะเพื่อนเนี่ยนะ ทำไมต้องตีกันขนาดนี้ด้วย พอโตๆขึ้นมาก็เข้าใจว่าช่วงนั้นมันมีแก๊งค์ลักเด็ก แม่เค้าก็กลัวว่าเราจะถูกจับไป แต่เค้าไม่รู้จะสอนยังไงให้เรา ก็เลยตีซะเลย จะได้เข็ด
สมัยนี้ยิ่งหนักกว่าเยอะ มีทั้งเกมส์ ทั้งยาเสพติด blah blah ... คงต้องใช้วิธีปล่อยบ้าง ดึงๆกันบ้างอ่ะเนอะ เฮ้อออ เด็กสมัยนี้ยอมรับเลยว่าเลี้ยงยาก
Like
Dislike
Butterfly story เรื่องของผีเสื้อเขา... เราก็เกี่ยว
หน้า
1
จาก
1
Permissions in this forum:
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
livingroom
::
ห้องนั่งเล่น
::
ศาลาริมน้ำ..
livingroom
::
ห้องนั่งเล่น
::
ศาลาริมน้ำ..
ไปที่:
เลือก forum
|
|--ห้องรับแขก
| |--สมาชิกแนะนำตัวนิดนึงค่ะ
|
|--ห้องพระ
| |--บทสวดมนต์-บทความ
| |--วิปัสสนาง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้
|
|--Dinning room
| |--ทำอาหาร
| |--ตะลอนชิม
|
|--ห้องนั่งเล่น
| |--ศาลาริมน้ำ..
| |--เรียนเชิญ ร่วมงาน ..พจน์ VS ทอมมี่...
| |--เรียนเชิญ ร่วมงาน.. ดรีม VS พี่เอย
|
|--HAPPY BIRTHDAY MEMBERS
|--August.. เปิ้ล(2) อี๊ด(3) ต่าย(4) กุ้ง(12) จอย(17)
|--September... โอ(9)... ก้อย(13)... เมย์(14)...ต๊อบ(28)
|--October หรรษา... แอน(4)... เตย(17) .... แคท(25)...